สุสานหิ้งห้อย (Grave the Fireflies)
สุสานหิ่งห้อย (Gravee the Fireflies) เป็นภาพยนต์อนิเมชั่นอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนยินดีรีวิวหนังเรื่องนี้ดอย่างมาก เพราะเป็นอนิเมชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากหลายๆ ประเทศ ภายใข้การผลิตของสตูดิโอ จิบลิ ค่ายผลิตภาพยต์อนิเมชั่นคุณภาพของโลกค่ายหนึ่งในประเทศญึ่ปุ่น เป็นผลงานของผู้กำกับ อิซะโอะ ทะกะฮะดะ เนื้อหาดัดแปลงมาจากอัตชีวิประวัติของ อะคิยูกิ โนซากะ ผู้สูญเสียน้องสาวจากการขาดสารอาหารในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่ง อนิเมชั่นสุสานหิ่งห้อยออกฉายในปี ค.ศ. 1998
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ระเบิดจากเครื่องบินของทหารอเมริกาถูกทิ้งลงมาทำให้ เซตะ และ ซะซึโกะ พลัดหลงกับแม่ของพวกเขา ต่อมาไม่นานมีคนมาบอกเซตะว่าแม่ของพวกเขาบาดเจ็บสาหัส และ เสียชีวิตเนื่องจากถูกไฟลวก ทั้งสองก็ได้ย้ายไปอยู่กับป้าฮิซาโกะ ป้าของพวกเขาถามถึงอาการบาดเจ็บของแม่ เซตะจึงได้บอกความจริงไปว่าแม่ของพวกเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาเซตะทนกับนิสัยอันเลวร้ายของป้าไม่ไหวจึงพาซะสึโกะออกจากบ้าน มาอาศัยอยู่ในเหมืองเก่าที่ถูกใช้เป็นหลุมหลบภัยเพื่อรอพ่อซึ่งเป็นนายพลทหารเรือกลับมารับ สิ่งรื่นเริงบันเทิงใจมีเพียงแสงสว่างของหิ่งห้อยเท่านั้น ความหวังที่พ่อของพวกเขาจะกลับมาก็ไม่ได้สว่างไปกว่าแสงหิ่งห้อยเลย
ส่วนตัวต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าหลังจากดูภาพยนต์อนิเมชันนี้จบมีความรู้สึกหดหู่ และ สะเทือนใจอย่างมากทำเอาจิตตกอยู่หลายวันเลยค่ะ และแน่นอนว่าไม่เหมาะสำหรับเด็กที่อายุ่ต่ำกว่า 16 ปีนะคะ เป็นการ์ตูนวาดมือที่นำเสนอเรื่องราวของพี่ชาย และ น้องสาวที่ต้องเอาชีวิตรอดจากความอดอยากในช่วงสงคราม บทบาทของตัวละครที่ผู้กำกับต้องการสื่ออกมาก็ทำได้ดีสมจริงมากๆ เลยทีเดียว ในส่วนของดนตรีประกอบเป็นผลงานของ มิชิโอะ มะมิยะ ซึ่งก็ลงตัวกับภาพยนต์ได้ดีเลยค่ะ โดยเฉพาะเพลง Home Sweet Home เพลงสุดคลาสสิคที่ทำให้น้ำตาร่วงตังแต่เริ่มเรื่อง ท้ายที่สุดแล้ว อนิเมชันเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าสงครามไม่เคยให้ประโยชน์อันใดเลย นอกจากความปวดร้าว และ พลัดพรากนั่นเอง
สำหรับอนิเมชั่นเรื่อง สุสานหิ่งห้อย (Grave the Firefiles) ให้คะแนนตามนี้เลยค่ะ
- เนื้อหา และ ความน่าสนใจ : 9 คะแนน
- ดนตรี และ เพลงประกอบ : 9 คะแนน
- ภาพ และ ฉากอื่นๆ ในเรื่อง : 9 คะแนน
- ความประทับใจ : 9 คะแนน
อนิเมชันเรื่องสุสานหิ่งห้อยนับได้ว่าเป็นตำนานของสตูดิโอจิบลีที่ครั้งหนึ่งต้องหามาชมให้ได้เลยล่ะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น